shopup.com

ดูบทความการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค

การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค

แนะนำบทความดีๆเกี่ยวกับการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จะเลือกอย่างไรให้ถูกใจและคุ้มค่ามากที่สุด

 

โน๊ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ก็เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในประเภทของอุปกรณ์ที่อิน เทรนด์ ท่านลองนึกภาพที่เวลามีคนเดินเข้ามาแล้วเปิดโน๊ตบุ๊ควางบนตัก แล้วเริ่มลงมือทำงาน ทุกคนก็จะจ้องกันเป็นตาเดียวด้วยความรู้สึกที่เท่ สมาร์ต ดูเป็นมืออาชีพ และบางคนซื้อโน๊ตบุ๊คก็ด้วยเหตุผลที่ต้องการทำให้ตนเองดูดีเท่านั้น การซื้อโน๊ตบุ๊คนั้นถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งเลยทีเดียว และสำหรับการดำเนินธุรกิจทั้งหลายก็เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค แต่ก็จะมีคำถามตามมาอีกว่า ทำไมโน๊ตบุ๊คจึงมีราคาแพงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป ทั้งที่อุปกรณ์ทุกอย่างก็มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งท่านก็คงคิดว่ามันน่าจะถูกกว่า แต่ผิดเลยครับ ในโลกของเทคโนโลยีนั้นตรงข้ามกันอย่างมาก ยิ่งเล็กยิ่งแพงครับ เราลองย้อนกลับไปในศตวรรษก่อนจะพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องการพื้นที่ทั้ง หมดของห้องในการจัดเก็บเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการที่จะทำให้เล็กลงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง นี่คือเหตุผลว่าทำไมโน๊ตบุ๊คถึงมีราคาแพง

นอกจากเรื่องราคาแล้ว โน๊ตบุ๊คก็ยังเสียหายได้ง่ายกว่าคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปอีก เช่น การที่เราต้องเดินทางอยู่บ่อย ๆ และนำโน๊ตบุ๊คไปด้วยนั้น บางครั้งถ้าเราขาดความระมัดระวังแล้ว โน๊ตบุ๊คของเราก็อาจจะไปกระแทกกับอย่างอื่นก็อาจเป็นได้ หรือบางครั้งก็อาจจะเกิดจากการสะเทือนขณะเคลื่อนย้ายก็ได้ แม้ว่าจะมีราคาแพงและเสียหายได้ง่าย แต่โน๊ตบุ๊คก็ยังได้รับความนิยมดังเหตุผลต่อไปนี้

1. เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ และจะต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ในระหว่างที่เดินทางอยู่ หลายๆ คนใช้โน๊ตบุ๊คในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและเปิดอ่านอีเมล์ นอกจากนี้ยังใช้สำหรับติดต่อกลับมายังสถานที่ทำงานของตนอีกด้วย

2. นอกจากโน๊ตบุ๊คจะเป็นอุปกรณ์หลักที่จะใช้ติดตัวไปทำงานนอกสถานที่ทำงาน สำหรับ ผู้ที่มีอาชีพไม่ได้อยู่ในสำนักงาน ก็สามารถที่จะนำข้อมูลที่ได้กลับมาใส่ในคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป หรือนำอิเล็กทรอนิกส์ไฟล์ที่ได้ส่งอีเมล์หรือส่งทางเนตเวิร์กได้ทันที

3. เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคจะใช้แทนกระดาษบันทึกจากการฟังบรรยายหรือสัมภาษณ์ เช่น นักหนังสือพิมพ์ พนักงานขายสินค้าต่าง ๆ ก็สามารถที่จะบันทึกข้อมูลลงในโน๊ตบุคได้ทันที และตัวโน๊ตบุ๊คเองก็สามารถที่จะเก็บข้อมูลได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคู่มือเล่มใหญ่ ๆ เมื่อต้องการค้นหา หรือแคตตาล็อกเมื่อต้องแสดงแบบของสินค้าให้ลูกค้าดู หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่ต้องใช้กระดาษมากๆ ก็สามารถเก็บลงในโน๊ตบุ๊คได้เลย

4. นอกจากนี้ยังเป็นเหตุผลส่วนตัวบางประการ เช่น ผู้ป่วยที่เพิ่งจะฟื้นไข้ก็สามารถที่จะทำงานอยู่บนเตียงผู้ป่วยได้เลย หรืออาจจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง เพื่อความบันเทิงก็ได้ หรือบางบ้านใช้โน๊ตบุ๊คก็เพราะว่าประหยัดเนื้อที่ในบ้านและสามารถที่จะ เคลื่อนย้ายไปทำงานได้ทุกๆ ห้องในบ้าน รวมทั้งหิ้วออกไปนอกบ้านได้ด้วย

โดย ทั่วไปแล้วเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คก็ไม่เหมือนกันทุกเครื่อง ซึ่งสามารถแบ่งเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

1. value notebook เป็นประเภทของโน๊ตบุ๊คที่ขายดีที่สุด เพราะว่าราคาจะพอดีและเหมาะสมกับงบประมาณของผู้ซื้อ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วในสเปกของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เท่าเทียมกัน เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะมีราคาที่แพงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปอยู่แล้ว ดังนั้นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าย่อมที่จะมีราคาแพงกว่าเช่นกัน เพราะ value notebook เป็นการผสานกันระหว่างราคาที่ลงตัว และเฉลี่ยด้วยความสามารถที่อุปกรณ์ระดับหนึ่งจะทำได้ แต่รูปลักษณ์ก็ไม่เก๋ไก๋มากนัก

2. light notebook เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คประเภทนี้จะมีราคาแพงกว่าเครื่อง value notebook เพราะว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้น้ำหนักของเครื่องน้อยลง อุปกรณ์บางชิ้นก็ต้องเอามาต่อภายนอกอีกที เช่น ช่องสำหรับใส่ดิสก์เก็ตต์ และมักจะใช้หลักการ clip-on เวลาที่เราจะใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมและมีการสำรองแบตเตอรี่ไว้เยอะ ๆ เมื่อเวลาที่จะนำออกไปข้างน้อยก็ค่อยถอดอุปกรณ์ที่ clip-on ออก ถ้าท่านจะตัดสินใจเลือกโน๊ตบุ๊คแบบนี้ก็ต่อเมื่อท่านต้องทำงานเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์อยู่ข้างนอกที่ทำงานเป็นส่วนใหญ่หรือตลอดเวลา เนื่องจากว่าโดยปกติโน๊ตบุ๊คก็มีน้ำหนักมากพอสมควรถ้าต้องถืออยู่ตลอดเวลา หรือใช้เวลานานพอสมควร จะทำให้เมื่อยมือและเสียบุคลิกภาพได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้หญิง ก็จะมีปัญหามากกว่าผู้ชายเพราะบางครั้งผู้หญิงที่ต้องใส่กระโปรงและรองเท้า ส้นสูงก็อาจทำให้เมื่อยล้าเพิ่มขึ้นไปอีก

3. bells and whistles notebook หรือที่เรียกกันว่า power notebook หรือ high-end notebook แบบนี้เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่สามารถทำได้ทุกอย่าง และมีราคาสูงด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากคำว่า “high-end” เมื่อไหร่ที่ท่านเจอคำนี้ให้ทำใจไว้ได้เลยครับว่าแพงกว่าธรรมดาแน่นอน ก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะ ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจซื้อโน๊ตบุ๊คที่เป็นแบบ “high-end” นั้น จะต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าท่านจะได้อะไรเพิ่มขึ้นมาจากการซื้อโน๊ตบุ๊คดังกล่าว หรือว่าเพียงแค่ต้องการทำให้ดูดีเท่านั้น โดยปกติการพิจารณาโน๊ตบุ๊คก็จะดูกันที่ความสามารถของการทำงาน ซึ่งก็จะเร็วอยู่แล้ว และก็จะดูอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น ช่องใส่ดิสก์เก็ตต์ หรือช่องใส่ดีวีดี หรือมีฮาร์ดดิสก์มากพอไหม และที่ยิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือ การสำรองแบตเตอรี่ ยิ่งนานก็ยิ่งเป็นจุดเด่นของโน๊ตบุ๊คยี่ห้อนั้นๆ บางรุ่นก็เพิ่มเทคโนโลยีไร้สายเข้าไป รวมทั้งมีอินฟราเรดพอร์ตด้วย หมายความว่าท่านสามารถส่งผ่านข้อมูลไปพิมพ์ออกพริ้นเตอร์ได้โดยไม่ต้องต่อ สาย หรือนำเสนอผ่านโปรเจคเตอร์โดยไม่ต้องใช้สายด้วยเช่นกัน โน๊ตบุ๊คประเภทนี้ยังมีระบบไฟและระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสูง และมีหน่วยความจำเยอะ ช่วยให้การทำงานเร็ว อีกทั้งยังมีหน้าจอขนาดใหญ่กว่าโน๊ตบุ๊คแบบธรรมดาอีกด้วย ท่านคงต้องตัดสินใจที่จะซื้อไว้สักเครื่องถ้าท่านมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจ ร่วมไปกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ทอป หรือถ้าท่านต้องการใช้งานแบบกราฟิก หรือการใช้งานด้านเสียงจากเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ก็ต้องเลือกโน๊ตบุ๊คประเภทนี้ครับ แต่ก็อย่าลืมว่าเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่เป็น “high-end” แม้จะมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงแต่ก็จะตกรุ่นได้เร็วเหมือนกัน เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาครับท่าน


องค์ประกอบของโน๊ตบุ๊ค
หลังจากที่ท่านตัดสินใจได้แล้วว่าอยากจะได้เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คประเภทไหนแล้ว ทีนี้ก็ต้องมาดูรายละเอียดของแต่ละยี่ห้ออีกว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรซึ่ง มีขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควร เพื่อความง่ายในการพิจารณา ผู้เขียนจะแยกองค์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คออกเป็นส่วนๆ แล้วมาดูกันว่าแต่ละส่วนต้องพิจารณาอย่างไรและมีความแตกต่างจากเครื่อง คอมพิวเตอร์เดสก์ทอปอย่างไร

1. notebook processor สิ่งที่แตกต่างจากคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปก็คือ ขนาด แต่ความเร็วก็เหมือนกันในรุ่นที่เท่ากัน และก็เหมือนกับเดสก์ทอปที่ตัวเลขบอกความเร็วของเมกะเฮิร์ต ถ้ายิ่งมากก็ยิ่งประมวลผลเร็ว และถ้าเป็นโปรเชสเชอร์ของ celeron ก็จะทำงานได้ช้าก็ pentium แต่ celeron ก็จะมีราคาถูกกว่า

2. คีย์บอร์ด ถ้าท่านคิดว่าจะใช้แป้นพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คได้เหมือนกันกับ แป้นพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปแล้วละก็ ท่านคิดผิดแล้วละครับ แป้นพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะเล็กกว่า ก็หมายความว่าการที่ท่านจะวางนิ้วตามปกติของท่านบนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ เดสก์ทอปนั้นก็จะไม่เหมือนกัน แต่เมื่อใช้ไปในเวลานาน ๆ บนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คก็อาจจะทำให้เมื่อยและเกิดอาการปวดตามข้อนิ้วได้ เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คบางรุ่นก็สามารถนำแป้นพิมพ์ของเดสก์ทอปมาต่อกับ โน๊ตบุ๊คได้ ทำให้เกิดความสะดวกมากขึ้น ซึ่งในกรณีนี้เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะมีช่องให้เสียบได้ที่ด้านหลังของ เครื่อง แต่อย่างไรก็ตามก็ควรเลือกแป้นพิมพ์ที่ไม่หนัก คือใช้น้ำหนักกดลงไปไม่มากและมีการคืนตัวที่พอดี นอกจากนี้ควรทำขนาดให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกัน ต้องเลือกดูให้ดีนะครับ

3. navigation device อุปกรณ์ที่ว่านี้เปรียบเทียบได้กับเม้าส์ของเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป ถ้าพูดอีกอย่างหนึ่งมันก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมการเลื่อนตำแหน่งเคอร์เซอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะมีอุปกรณ์ประเภทนี้แตกต่างกันไป แต่ที่เห็นใช้กันมากในปัจจุบันนั้นเรียกว่า “touchpad” ซึ่งมีพื้นผิวให้ผู้ใช้ได้สัมผัสในการระบุตำแหน่งเคอร์เซอร์โดยใช้เมตริกซ์ ของระนาบเม้าส์จะเลื่อนตามเมื่อเราเลื่อนนิ้วไปบน touchpad แต่บางครั้ง touchpad ก็สูญเสียเมตริกซ์ทำให้ไม่สามารถควบคุมเม้าส์ได้ ก็จะเกิดความผิดพลาดขึ้น ส่วนอีกแบบหนึ่งเรียกว่า “trackball” อันนี้ก็ให้นึกถึงเม้าส์ที่หงายท้องนะครับ เวลาใช้ก็ใช้นิ้วกลิ้งแล้วเม้าส์ก็จะเลื่อนตามลูกบอลที่กลิ้งไป นอกจากนี้ก็มีอีกแบบหนึ่งเรียกว่า “accupoint” จะเป็นแท่งเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ตรงกลางของแป้นพิมพ์ เวลาใช้ก็ใช้นิ้ววางที่ accupoint แล้วกดน้ำหนักลงไปเล็กน้อย จากนั้นถ้าต้องการเลื่อนเม้าส์ไปทางซ้ายก็ผลัก accupoint ไปทางซ้าย อยากเลื่อนไปทางขวาก็ผลักไปทางขวา แต่จะเลือกแบบไหนก็ตามใจชอบนะครับ แต่ขอให้ลองสัมผัสดูก่อนไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ก็ชอบแบบนี้แบบนั้นเลย ผู้เขียนกลัวว่ามันจะไม่ทำงานหรืออาจจะไม่เหมาะกับเรา แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถต่อเม้าส์เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คได้ ครับ

4. Display จริง ๆ แล้วหน้าจอของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คถือเป็นจุดขายที่สำคัญเลยทีเดียว เพราะว่าจอที่มีคุณภาพต่ำและมีขนาดเล็กจะทำให้ผู้ใช้สายตาเสียและหัวเสียได้ ครับ หน้าจอที่ชัดและขยายใหญ่ให้ได้มากที่สุดจะเป็นของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คในฝันของผู้ใช้เลยทีเดียว แต่ขนาดของจอโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 13.3-15.0 นิ้ว (วัดตามแนวเส้นทะแยงมุม) สำหรับหน้าจอถ้าแบ่งตามเทคโนโลยีที่ใช้ จะแบ่งได้ 3 ประเภท คือ
4.1 Thin Film Transistor (TFT) เป็นจอที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ ให้ความคมชัดอยู่ในเกณฑ์ดี
4.2 Double Layer Super Twist (DSITN) เป็นจอที่มีคุณภาพด้อยกว่าแบบ TFT และราคาจะถูกกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดในด้านการแสดงภาพ
4.3 High-Performance Addressing (HPA) เป็นจอที่มีประสิทธิภาพสูง มีการปรับ contrast ที่ดี ให้มุมมองกับภาพที่ดีกว่าแบบ TFT และส่วนใหญ่จอประเภทนี้จะเป็นจอของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คแบบ “high-end” ด้วย
อย่างไรก็ตามความละเอียดของหน้าจอ (resolution) ก็มีความสำคัญในการใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่มีความละเอียดสูงๆ ย่อมดีกว่าความละเอียดน้อยๆ จอที่เป็น VGA ก็จะเป็นจอที่มีคุณภาพต่ำสุด รองลงมาคือ SVGA และคุณภาพสูงสุดคือ XGA

5. hard disk drive ก็คงเหมือนคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป ซึ่งฮาร์ดดิสก์ก็จะเป็นที่เก็บข้อมูลถาวรในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน โดยทั่วไปฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาดใหญ่ก็จะมีความจุมากว่าขนาดเล็ก ท่านอาจจะประหยัดในส่วนนี้ คือ ไม่จำเป็นเลือกฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาดใหญ่มาก และผู้เขียนก็ไม่แนะนำพวกรูปภาพหรือดาวน์โหลดอะไรก็ตามจากอินเตอร์เน็ตมา เก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ด้วย เพราะว่าจะเปลืองเนื้อที่โดยไม่จำเป็น และอีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านต้องใช้โปรแกรมหลายๆ ตัว ซึ่งเรียกขึ้นมาจากฮาร์ดดิสก์ เช่น โปรแกรมในกลุ่ม office หรือโปรแกรมเฉพาะในที่ทำงานของท่านเอง ดังนั้นแทนที่ท่านจะใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูล ผู้เขียนแนะนำว่าใช้เก็บโปรแกรมจะดีกว่าครับ ขนาดของฮาร์ดดิสก์จะอยู่ที่ประมาณ 4-24 GB ซึ่ง 4 GB เป็นมาตรฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุคที่มีขนาดเล็กที่สุดในปัจจุบัน แล้วก็ตามมาด้วยที่ 8 GB แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คบางรุ่นบางยี่ห้อ สามารถเพิ่มฮาร์ดดิสก์ได้จากช่องที่ให้เสียบด้านล่างถ้าท่านต้องการเนื้อที่ เพิ่ม ซึ่งอาจจะเป็นอีกไดร์ฟหนึ่งซึ่งจะไม่เหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป เพราะว่าสามารถถอดออกได้ง่าย

6. RAM “แรม” (random access memory) เป็นหน่วยความจำชั่วคราวที่ทำงานขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ แรมมีหน่วยเป็น megabyte แรมยิ่งมากเครื่องคอมพิวเตอร์ยิ่งทำงานเร็ว แรมที่ดี หมายความว่าท่านสามารถทำงานได้หลายๆ งาน พร้อมๆ กัน โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ช้าและไม่แฮงค์ เพราะถ้าเป็นแบบนี้เนื่องมาจากแรมไม่พอ ซึ่งจะเหมือนกันทั้งเครื่องเดสก์ทอปและเครื่องโน๊ตบุ๊ค สำหรับเหตุผลที่ใช้ตัดสินใจในการเลือกจำนวนของแรมที่เหมาะสม เพราะถ้าเพิ่มแรมมากขึ้นก็หมายถึงเงินที่จะต้องจ่ายก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เช่นกันครับ แม้ว่าเพิ่มเงินเล็กน้อยแล้วได้แรมมากขึ้นก็ไม่แนะนำ แรมที่เหมาะสมในการใช้งานแบบพื้นฐานก็จะประมาณ 32 MB แต่ถ้าจะมีการพิมพ์ การเล่นเกม การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แรมควรจะอยู่ที่ 64 MB หรือมากกว่า และถ้าจะให้ดีควรที่จะเหลือเผื่อไว้สำหรับการเพิ่มแรมในอนาคตด้วย โดยทั่วไปแล้วแรมจะมีอยู่ 3 ประเภท ดังนี้
6.1 Extended Data Out (EDO)
6.2 Fast Page Mode (FPM)
6.3 Synchronous Dynamic Ram (SDRAM)
ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้ SDRAM จะเป็นแรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุ

7. แบตเตอรี่ (battery) ก็เป็นจุดที่สำคัญอีกจุดหนึ่งในการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ต บุ๊ค เพื่อที่จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเสียบ ปลั๊ก ซึ่งแบตเตอรี่ของโน๊ตบุ๊คมี 2 แบบ คือ Lithium Ion (LiIon) และ Nickel Metal Hydride (NiMH) แบบ LiIon จะเก็บไฟได้มากกว่าแบบ NiMH 10% และเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะต้องสามารถทำงานได้ 2-3 ชั่วโมงโดยใช้แบตเตอรี่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับงานที่ทำและคุณสมบัติของการประหยัดพลังงานของโน๊ตบุ๊คแต่ละ เครื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น notebook pentium III มีคุณสมบัติ low-power มันก็จะประหยัดพลังงานเมื่อเวลาที่เราไม่ใช้เครื่อง และบางเครื่องก็มีช่องให้ใส่แบตเตอรี่ได้ 2 ก้อน ถ้าคุณต้องการเพิ่มเวลาเป็นอีกเท่าตัว เรื่องนี้สำคัญมากนะครับสำหรับคนที่ต้องใช้แบตเตอรี่บ่อยๆ ก็ต้องดูกันที่ค่าเฉลี่ยของชั่วโมงที่ใช้งาน

8. extra storage เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่จะมีช่องใส่ดิสก์เก็ตต์กับช่องใส่ซีดี เป็นแบบที่สามารถถอดออกได้ โดยส่วนมากตัวที่จะไม่ติดมากับเครื่องเลยมักจะเป็นช่องใส่ดิสก์เก็ตต์ เพราะเก็บข้อมูลได้น้อย แต่จะนำมาต่อเข้าในภายหลัง ถ้าจำเป็นต้องใช้ท่านก็สามารถเลือกได้ว่าต้องการอุปกรณ์ชิ้นใด เช่น ต้องการอ่านข้อมูลจากซีดีหรือดีวีดี เพียงอย่างเดียว หรือต้องการบันทึกข้อมูลลงซีดีด้วย ก็จะเป็นหลายๆ แบบให้เลือกตามความต้องการ เพียงแต่ว่าช่องสำหรับอ่านซีดีนั้นไม่สามารถอ่านดีวีดีได้ แต่ช่องสำหรับอ่านดีวีดีสามารถอ่านซีดีได้ครับ ถ้าท่านต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ได้เรื่อยในอนาคต ช่องที่เป็นดีวีดีจะเหมาะกว่าเพราะสามารถอ่านข้อมูลได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลนอกเหนือจาก ฮาร์ดดิสก์ เช่น Iomaga zip drive หรือ imation superdisk พวกนี้ก็เป็นน้องฮาร์ดดิสก์ ก็แล้วแต่ว่าบริษัทไหนจะเรียกอย่างไร

9. PC card เป็นที่ใช้สำหรับทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทำงาน ร่วมกับ fax / modem หรือสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายต่าง ๆ ได้ และสามารถโอนย้ายข้อมูลด้วยความเร็วไปเก็บยังที่ที่ต้องการได้ด้วยครับ

คอลัมน์ อนามัยไฮเทค ปีที่ 11 ฉบับที่ 3 (พ.ย.-ธ.ค.44)
ตอน การเลือกซื้อโน้ตบุค
วรพจน์ พรหมสัตยพรต

 

 

 

รับซื้อคอมพิวเตอร์ บริษัทรับซื้อคอมพิวเตอร์

27 มีนาคม 2566

ผู้ชม 467 ครั้ง

Engine by shopup.com